ดูแลเส้นผม “ผมตรง ผมหยักศก ผมหยิก” ด้วยทริคจากผู้เชี่ยวชาญ

ดูแลเส้นผม

ดูแลเส้นผม ทุกประเภทอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ…

 

หากเส้นผมดูไร้ชีวิตชีวาและอ่อนแอแม้จะบำรุงรักษาอย่างดีแล้วก็ตาม นั่นอาจเป็นสัญญาณบอกว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการดูแลเส้นผมให้เหมาะสมกับเราจริงๆ ทั้งผมตรง ผมหยักศก หรือผมหยิกนั้นมีเทคนิคที่แตกต่างกัน โดยในวันนี้ Dcash Professional จะมาแชร์ทริค ดูแลเส้นผม เคล็ดลับสำคัญในการดูแลเส้นผมที่เหมาะกับคุณโดยเฉพาะ รวมถึงแนะนำอาหารที่ดีที่สุดที่จะช่วยปรับสภาพเส้นผมให้มีสุขภาพดีจากภายใน สวยเด้ง เจิดจริสได้อย่างเป็นธรรมชาติ

 

เข้าใจลักษณะเส้นผม

การมีผมสวยแข็งแรงถือเป็นเสน่ห์และความภาคภูมิใจอีกอย่างหนึ่งของผู้หญิง กิจวัตรการดูแลเส้นผมที่เหมาะสมจึงช่วยให้สาวๆ มั่นใจได้ว่าเส้นผมจะมีสุขภาพดีและจัดทรงให้สวยได้ตามใจต้องการ ซึ่งควรใส่ใจตั้งแต่การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่ แชมพูที่อ่อนโยน ครีมนวดผมสูตรเฉพาะ มาสก์ เซรั่ม ร่วมไปกับการสระ การบำรุง และการจัดแต่งทรง เพื่อป้องกันปัญหาผมเสีย ช่วยให้เส้นผมแข็งแรงได้ตั้งแต่โคนจรดปลาย และช่วยให้เส้นผมใหม่เจริญเติบโตได้ดีอีกด้วย สาวๆ จึงต้องเข้าใจในลักษณะเส้นผมของตัวเองก่อน ว่าผมตรง ผมหยักศก หรือผมหยิก มีโครงสร้างหรือแตกต่างกันอย่างไร จึงจะเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะสมได้ โดยผมตรงเป็นผมที่มีความแข็งแรงที่สุดในบรรดาผมทั้งสามประเภท มีลักษณะเป็นมันเงา ดูแลง่าย รวมถึงจัดทรงได้ง่ายที่สุด และจัดแต่งได้หลากหลายอีกด้วย ส่วนผมหยักศกจะมีลักษณะหยิกเล็กน้อยที่บริเวณปลายผม ในขณะที่ผมส่วนที่เหลือจะมีลักษณะตรง และผมหยิกเป็นผมที่ค่อนข้างหนาและมีแนวโน้มที่จะเกิดการชี้ฟูและมีความแห้งมากกว่าผมประเภทอื่นๆ ลองดูเคล็ดลับการดูแลเส้นผมบางประการในหัวข้อต่อไปนี้

 

ทริคในการ ดูแลเส้นผม ให้เหมาะกับสภาพเส้นผมแต่ละประเภท

 

 

1.ผมตรง

แม้ว่าผมตรงจะดูเหมือนว่าได้เปรียบผมทุกประเภท แต่ไม่ได้หมายความว่าจะละเลยการดูแลได้ สำหรับผมตรง หนังศีรษะจะผลิตน้ำมันธรรมชาติออกมาบำรุงเส้นผมอย่างสม่ำเสมอ ฉะนั้นจึงมีแนวโน้มที่จะเกิดผมลีบแบนและอาจดูว่าผมมันเกินไปได้

 

การสระผม

-เลือกใช้แชมพูที่ไม่มีส่วนผสมของซัลเฟต เพราะแชมพูที่มีซัลเฟตมักใช้กับผมที่มีความมันมากๆ

-ควรสระผมเพียง 2-3 วันต่อครั้งเท่านั้น

 

การบำรุงดูแลเส้นผม

-เลือกใช้ครีมนวดผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าวและอาร์แกนออยล์เพื่อรักษาระดับความชุ่มชื้นและบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง

-ไม่ควรใช้ครีมนวดบนหนังศีรษะเพราะอาจทำให้เกิดการสะสมของสารเคมีและมีการอุดตันรูขุมขน ทำให้เส้นผมมันเยิ้มและลีบแบน

 

การจัดแต่งทรงแก้ปัญหาผมลีบแบน

ใช้มูสจัดแต่งทรงผมเพิ่มวอลลุ่มให้ผมดูมีน้ำหนัก ไม่ลีบแบน โดยมีเคล็ดลับคือใช้มูสบนผมเปียกหมาดๆ ก่อนเป่าให้แห้ง

 

 

2.ผมหยักศก

ผมหยักศกเป็นลักษณะเส้นผมที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะส่วนใหญ่จะมีความมันบริเวณหนังศีรษะ แต่มีความแห้งที่บริเวณปลายผม และถ้าหากดูแลดีๆ จะจัดทรงได้ไม่ยาก

 

การสระผม

-ควรสระผมทุกๆ 3 วัน เพื่อไม่ให้ผมแห้งจนเกินไป และให้ผมมีสุขภาพดี

-หลังสระผมควรซับผมด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ เพื่อป้องกันและลดปัญหาผมชี้ฟู

 

การบำรุงดูแลเส้นผม

-ควรใช้ผลิตภัณฑ์ปรับสภาพเส้นผมหลังสระเพื่อเพิ่มมิติให้กับลอนผมได้

-นวดผมด้วยน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอก 1 ช.ม. ก่อนสระผม จะช่วยให้โครงสร้างเส้นผมแข็งแรงขึ้น โดยน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติในการแทรกซึมเข้าสู่แกนเส้นผมได้ดี ช่วยลดการสูญเสียโปรตีนในเส้นผมได้ ส่วนน้ำมันมะกอกจะช่วยรักษาปัญหาต่างๆ ของเส้นผมและหนังศีรษะ

-หากต้องออกไปเจอเผชิญแสงแดดหรือมลภาวะนานๆ สามารถหมักน้ำมันโจโจ้บาที่ปลายผม แล้วปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืนเพื่อล็อกความชุ่มชื้น และฟื้นบำรุงสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรง

 

การจัดแต่งทรง

-เลือกใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่ทรงผมที่สามารถสร้างมิติให้ผมหยักศกดูเป็นคลื่นและลอนสวย ทำให้เส้นผมดูมีน้ำหนักได้

 

 

3.ผมหยิก

ผมหยิกเป็นผมที่ดูแลยากที่สุด มักจะพบกับปัญหาผมแห้ง มีลักษณะชี้ฟูมาก เพราะโครงสร้างของผมหยิกเป็นอุปสรรคต่อหนังศีรษะที่จะส่งน้ำมันธรรมชาติไปหล่อเลี้ยงเส้นผม รวมถึงยังเปราะบางและขาดร่วงง่ายอีกด้วย

 

การสระผม

– ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนที่ปราศจากซัลเฟตเพื่อรักษาน้ำมันผมตามธรรมชาติ

– ไม่ควรสระผมเกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดผมแห้งเสีย

– ควรใช้ครีมนวดบำรุงผมทุกครั้งในการสระผม

 

การบำรุงดูแลเส้นผม

-ผมหยิกมักมีปัญหาขาดความชุ่มชื้นอยู่เสมอ จึงควรบำรุงผมด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับผมแห้งโดยเฉพาะ

-ใช้มาสก์บำรุงผมสูตรเข้มข้นสำหรับปรับสภาพ 1 ครั้ง ต่อ 2 สัปดาห์ เพื่อเคลือบปกป้องเส้นผม พร้อมเสริมความชุ่มชื่นไปด้วยในตัว 

 

การจัดแต่งทรง

-เนื่องจากโครงสร้างผมหยิกมีความเปราะบาง จึงต้องหวีผมอย่างระมัดระวัง แนะนำว่าควรสางผมขณะใช้ครีมนวดผม และเลือกใช้หวีซี่ห่างในการสางผมพันกัน จะช่วยลดการขาดร่วงของผมได้ดี และยังช่วยรักษาสภาพผมให้สวยเงางามอีกด้วย

-เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มวอลลุ่มให้กับเส้นผม

 

นอกจากการบำรุงดูแลเส้นผมอย่างถูกวิธีสม่ำเสมอแล้ว การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้แก่เส้นผมได้อีกด้วย โดยอาหาร 5 ประเภทที่ Dcash Professional อยากจะแนะนำต่อไปนี้ ส่งผลต่อสุขภาพเส้นผมของคุณโดยตรง ช่วยให้แข็งแรงยิ่งขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ และยังเป็นความแข็งแรงจากภายในที่ส่งผลดีต่อโครงสร้างเส่นผม รวมถึงรากผมได้ในระยะยาวอีกด้วย 

 

แนะนำอาหาร 5 ประเภท ทานแล้วที่ดีต่อสุขภาพเส้นผมสุดๆ

 

 

1.ไข่ 

ในโครงสร้างเส้นผมของคนเราจะประกอบด้วยโปรตีนที่เรียกว่าเคราติน ซึ่งการขาดโปรตีนจะส่งผลเสียคืออาจทำให้ผมร่วงและเกิดผมบางได้ และไข่ไก่เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินบี รวมถึงมีแร่ธาตุมากมาย ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ช่วยให้สุขภาพเส้นผมแข็งแรง และช่วยลดการหลุดร่วงได้ นอกจากนี้ไข่ไก่ยังมีสารที่เรียกว่า เปปไทด์มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ดีอีกด้วย

 

2.ผักโขม 

น้ำมันจากหนังศีรษะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เส้นผมชุ่มชื้นและแข็งแรง ซึ่งการขาดน้ำมันจะทำให้หนังศีรษะแห้ง อาจเกิดปัญหารังแค และปัญหาผมแห้งเสียตามมาได้ ฉะนั้นจึงควรรับประทานผักโขมเพื่อเสริมวิตามินเอให้แก่ร่างกาย เพราะวิตามินเอมีส่วนช่วยในการผลิตน้ำมันธรรมชาตินั่นเอง

 

3.โยเกิร์ต 

โยเกิร์ตเป็นแหล่งโปรไบโอติกและวิตามินบี 5 ที่ยอดเยี่ยม โดยโปรไบโอติกช่วยปรับปรุง ฟื้นบำรุงสภาพผมเสีย รวมถึงช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม และวิตามินบี 5 มีประโยชน์ในการช่วยแก้ปัญหาผมร่วงได้

 

4.เนื้อสัตว์ 

เนื้อแดงมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งหากสาวๆ ขาดธาตุเหล็ก อาจจะทำให้เกิดปัญหาผมหงอกก่อนวัยและผมร่วงได้ ฉะนั้นควรรับประทานเนื้อแดงเพื่อเสริมสร้างสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรง

 

5.เมล็ดถั่ว

ถั่วเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยวิตามินอีซึ่งช่วยมีประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระ พร้อมกับบำรุงให้เส้นผมการเจริญเติบโตได้ดีและป้องกันผมร่วงได้

 

 

เคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลเส้นผม

 

-ผมแตกปลายทำให้เส้นผมดูชี้ฟู ไร้ชีวิตชีวา จึงควรเล็มผมทุกๆ 2-3 เดือนเพื่อลดการแตกปลาย  และฟื้นสภาพผมให้กลับมาแข็งแรง

-หลีกเลี่ยงการสระผมทุกวัน เพราะการสระผมจะดึงน้ำมันตามธรรมชาติออกจากเส้นผม ส่งผลให้ผมแห้ง

-ไม่ควรมัดผมหางม้า ทำมวยผม หรือหรือถักเปียแน่นๆ เพราะอาจทำให้ผมขาดร่วง หรือเกิดปัญหาศีรษะล้านได้ในระยะยาว

-สวมหมวกเมื่อต้องเผชิญแดดจัดเพื่อปกป้องเส้นผมจากความร้อนและรังสียูวี

-สระผมด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นๆ เท่านั้น ควรหลีกเลี่ยงน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป เพราะน้ำร้อนทำให้ผมแห้งและเสียหายได้

 

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม

4 สูตร มาสก์บำรุงผมแห้ง สไตล์โฮมเมด ใช้วัตถุดิบหาง่าย ใกล้ตัว

รวม 7 ปัญหาผม ยอดฮิต พร้อมเคล็ดลับฟื้นบำรุงที่ตรงจุด

น้ำมันมะกอกกับการบำรุงผมแห้งเสีย (พร้อมสูตรมาสก์ Home Made)

ดีแคช อินทัช วิตามินอี ที่สุดแห่งเกราะป้องกันมลภาวะและความร้อน

 

หากสนใจผลิตภัณฑ์ Dcash Professional สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากฝ่ายบริการลูกค้าที่ช่องทางติดต่อดังนี้ค่ะ

Website : www.dcash.co.th

Facebook : Dcash Professional

Line ID : @dcashpro (มี@ด้านหน้า)

Instagram : dcash_professional

โทร. 02-726-2300 ต่อ 183 หรือ 511

แชร์