5 ทริคง่ายๆ ทำได้ทันที ! เปลี่ยน ผมหยาบกระด้าง ให้นุ่มลื่น แข็งแรง 

“จัดการกับผมหยาบกระด้างและชี้ฟูอย่างเหมาะสมด้วยวิธีที่ถูกต้อง”

 

เส้นผมแข็งหรือหยาบกระด้างเป็นประเภทผมที่เจอบ่อยและจัดการได้ค่อนข้างยาก ซึ่งลักษณะผมแบบนี้จำเป็นต้องเพิ่มความชุ่มชื้นให้มากเป็นพิเศษ เพราะมีโครงสร้างของเส้นผมที่หนากว่าผมทั่วไป โดยเฉพาะเส้นผ่านศูนย์กลาง ซึ่งหากดูแลไม่ดี เส้นผมจะแห้งเสียและชี้ฟูได้ง่ายมาก ซึ่งในวันนี้ Dcash Professional มีเคล็ดลับเกี่ยวกับการดูแลเส้นผมแข็ง ผมหยาบกระด้าง มาฝากสาวๆ ที่ต้องการปรับสภาพผมให้นุ่มลื่นจัดการผมแห้ง ชี้ฟู และพันกันยุ่งเหยิงได้อย่างอยู่หมัด พร้อมกับทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

 

ความแตกต่างของผมหยาบกับผมหนา

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ผมลักษณะหยาบนั้นต่างจากผมหนา โดยผมหนาการที่มีรูขุมขนจำนวนมากบนหนังศีรษะ ทำให้มีผมเยอะ ส่วนผมหยาบนั้นหมายถึงเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมแต่ละเส้นนั้นมีความหนากว่า แข็งแรงกว่า เมื่อจับดูจึงทำให้รู้สึกถึงความหยาบกระด้าง ฉะนั้นไม่ว่าจะคนผมหนาหรือผมบางก็อาจมีผมที่หยาบกระด้างได้เช่นกัน

 

เคล็ดลับการดูแล ผมหยาบกระด้าง ให้นุ่มลื่น น่าสัมผัส

 

 

1.บำรุงผมด้วยน้ำมันธรรมชาติ

ผมหยาบมีแนวโน้มที่จะแห้งมากกว่าผมประเภทอื่นๆ ซึ่งเราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการคืนความเงางามและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมได้โดยการใช้น้ำมันธรรมชาติ เช่น น้ำมันอะโวคาโด น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะพร้าว น้ำมันบำรุงผมเหล่านี้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องการบำรุงผมแห้ง โดยจะซึมซาบเข้าสู่โครงสร้างเส้นผมได้ง่ายและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยปรับสภาพและบำรุงสุขภาพเส้นผม ลดการชี้ฟูได้อีกด้วย โดยน้ำมันอะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามิน A B6 C K กรดโฟลิก และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวซึ่งมี  คุณสมบัติซึมซาบเข้าสู่เส้นผมได้อย่างรวดเร็ว ช่วยปกป้องเส้นผมจากการสูญเสียความชื้น ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงแก่เส้นผมแต่ละเส้นและป้องกันผมขาดหลุดร่วงได้ สำหรับน้ำมันมะพร้าวนั้นมีวิตามินอีและเค มีคุณสมบัติในการจับโปรตีนในเส้นผมได้ดีสามารถซึมผ่านเส้นใยผมเข้าไปได้อย่างล้ำลึก และให้ความชุ่มชื้นยาวนาน ส่วนน้ำมันมะกอก:น้ำมันมะกอกช่วยให้ผมนุ่มขึ้น เพิ่มความเงางาม และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมได้อีกด้วย

 

Quick Tip

ควรใช้น้ำมันบำรุงเส้นผมขณะผมแห้งเสมอ 

เพื่อการซึมซาบที่มีประสิทธิภาพ และการบำรุงที่ล้ำลึก

 

2.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะสม

ควรเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะกับสภาพเส้นผมโดยเลือกแชมพูหรือครีมนวดผมสูตรที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษสำหรับผมหยาบกระด้างโดยเฉพาะ เพื่อให้เส้นผมได้รับสารสกัดและสารบำรุงที่จะช่วยให้ผมหยาบนั้นมีความนุ่มยิ่งขึ้น

 

Quick Tip

ไม่ควรสระผมทุกวันหรือบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้น้ำมันธรรมชาติ

ที่จำเป็นต่อสุขภาพผมถูกชะล้างออกไป 

ทำให้เส่นผมแห้งและขาดความชุ่มชื้นมากกว่าเดิม

 

3.เลี่ยงการเป่าลมร้อน

หลีกเลี่ยงเป่าผมด้วยลมร้อนจากไดร์เป่าผม เพื่อไม่ให้โครงสร้างเส้นผมเสียหาย เพราะความชื้นในเส้นผมจะระเหยออก ทำให้เส้นผมแตกปลายหรือขาดร่วงได้ รวมถึงลดการใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมที่ใช้ความร้อน เช่น เครื่องหนีบผม ที่ม้วนผม ที่ทำร้ายเส้นผม หากจำเป็นควรใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนก่อน

 

 

Quick Tip

หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ

เพราะอาจทำให้ผมแห้งมากยิ่งขึ้น

 

4.ใช้มาสก์ธรรมชาติบำรุงผมเพิ่มความชุ่มชื้น

การบำรุงผมด้วยมาสก์จากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น ไข่ น้ำผึ้ง กล้วย มะพร้าว อะโวคาโด และน้ำมันมะกอก ช่วยให้ผมเรียบลื่น เพิ่มความเงางาม และมีน้ำหนัก นอกจากนี้ยังส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ดีอีกด้วย

 

5.รับประทานอาหารและดื่มน้ำอย่างเหมาะสม

การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์บางอย่างนั้นช่วยทำให้เส้นผมหยาบกระด้างกลับมานุ่มลื่นและมีสุขภาพดีขึ้นได้  ด้วยการทานอาหารที่ดี หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เหมาะสม เช่น ในผักและผลไม้ที่มีสีส้ม เมล็ดแฟลกซ์หรือเมล็ดฟักทอง ซึ่งมีกรดไขมันโอเมก้า 3 และเบตาแคโรทีน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับเส้นผม นอกจากนี้ควรรักษาระดับน้ำในร่างกายให้เหมาะสม จะช่วยให้สุขภาพโดยรวมดี ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดไปยังรูขุมขนได้ดี รวมถึงลดปริมาณเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและเลือกดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแทน

 

คำถามที่พบบ่อย

 

1.จัดการปัญหาผมหยาบกร้านด้วยการรับประทานอาหารได้หรือไม่?

ตอบ : ได้ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีสารอาหารจำเป็นต่อเส้นผม เช่น อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอนและวอลนัท รวมถึงวิตามินจากผักใบเขียว เช่น ผักโขม จะช่วยปรับสภาพเนื้อผมที่หยาบกระด้างให้ดูดีขึ้นได้ รวมถึงการดื่มน้ำให้เพียงพอก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผมชุ่มชื้นและนุ่มสลวยได้อีกด้วย

 

2.ปัจจัยที่ทำให้เส้นผมถึงแข็งและหยาบคืออะไร

ตอบ : เป็นไปได้ว่าอาจจะเกี่ยวกับพันธุกรรม ความร้อน หรือสารเคมีทำลายเส้นผม หรือเส้นผมขาดความชุ่มชื้น ไปจนถึงสัมผัสมลภาวะและสิ่งสกปรกในแต่ละวัน แม้กระทั่งความเครียดก็สามารถทำลายเนื้อผมได้เช่นกัน

 

3.ขาดสารอาหารอะไร ถึงทำให้ผมหยาบ?

ตอบ :การขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด เช่น ไบโอตินหรือธาตุเหล็ก อาจทำให้ผมหยาบกระด้างได้

 

 

4.เส้นผมจะหยาบขึ้นตามอายุหรือเปล่า?

ตอบ : เส้นผมอาจหยาบกร้านมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น เพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน มีการผลิตน้ำมันลดลง รวมถึงความเสื่อมของเส้นผมตามธรรมชาติ

 

5.แนะนำการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะสมสำหรับผมหยาบ เช่น แชมพู ครีมนวดผม และทรีตเมนต์?

ตอบ : ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น น้ำมันมะพร้าว เชียบัตเตอร์ และกลีเซอรีน และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีซัลเฟตหรือแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำลายน้ำมันตามธรรมชาติของเส้นผม จะยิ่งทำให้ผมแห้งได้

 

6.ควรเล็มปลายผมหยาบบ่อยแค่ไหน เพื่อรักษาสุขภาพผม และป้องกันปัญหาผมแตกปลาย

ตอบ : ควรเล็มปลายผมทุกๆ 8-12 สัปดาห์ เพื่อรักษาสุขภาพผมและป้องกันผมแตกปลาย อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาหรือจำนวนครั้งของการเล็มปลายผมอาจแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเนื้อผมและพฤติกรรมการจัดแต่งทรงผมของแต่ละบุคคลด้วย

 

หากสนใจผลิตภัณฑ์ Dcash Professional สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากฝ่ายบริการลูกค้าที่ช่องทางติดต่อดังนี้ค่ะ

Website : www.dcash.co.th

Facebook : Dcash Professional

Line ID : @dcashpro (มี@ด้านหน้า)

Instagram : dcash_professional

โทร. 02-726-2300 ต่อ 183 หรือ 511

แชร์