6 สูตร มาสก์ผมน้ำมันมะกอก DIY ทำง่าย บำรุงผมให้หนานุ่ม เงางาม

การมาส์กผมด้วยน้ำมันมะกอกถือเป็นอีกหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการบำรุงสุขภาพผม โดยน้ำมันมะกอกมีวิตามินอี รวมถึงสารอาหารที่มีประโยชน์อื่นๆ เป็นจำนวนมาก จึงสามารถช่วยควบคุมการหลุดร่วงของเส้นผม ควบคุมการผมแตกปลาย และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ได้ ทั้งยังช่วยให้ผมชุ่มชื้น สุขภาพดี นุ่มสลวย และเงางามอีกด้วย

 

น้ำมันมะกอกมีประโยชน์ต่อเส้นผมอย่างไร

 

การนวดหนังศีรษะหรือมาส์กผมด้วยน้ำมันมะกอกสามารถทำได้กับผมทุกลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นผมตรงหรือผมหยิก มีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างบางเบา ไม่ทำให้ผมเหนียวเหนอะหนะ นำมาใช้เป็นเซรั่มบำรุงผมหลังสระได้ โดยในน้ำมันมะกอกมีคุณประโยชน์ช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสียและเปราะบางได้อย่างน่าอัศจรรย์ น้ำมันมะกอกนั้นให้ความชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้ผมลีบแบน ช่วยปรับสภาพและเพิ่มความยืดหยุ่น รวมถึงบำรุงสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรง มีสุขภาพดี และป้องกันผมขาดหลุดร่วงได้ด้วย

 

รวม 7 สูตร มาสก์น้ำมันมะกอก DIY เปลี่ยนผมพังให้มีวอลลุ่มและเงางามในพริบตา

 

 

1.น้ำมันมะกอกกับน้ำผึ้ง

เป็นสูตรที่เหมาะสำหรับผมแห้งเสีย และยังสามารถใช้สำหรับผมมันได้เพราะส่วนผสมในสูตรนี้ไม่ทำให้ผมลีบแบน โดยเสริมด้วยคุณประโยชน์ของน้ำผึ้งที่เติมเต็มความชุ่มชื้น พร้อมกับปรับสภาพเส้นผม และช่วยลดรังแค

 

ส่วนผสม

-น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 3 ช้อนโต๊ะ

-น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

-วิตามินอีบำรุงผมแบบแคปซูล 1 เม็ด

 

ขั้นตอนการเตรียม

-ผสมน้ำมันมะกอก น้ำผึ้ง และวิตามินอีเข้าด้วยกัน โดยคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

 

วิธีใช้

-สระผมแล้วปล่อยด้วยลมเย็น จากนั้นแบ่งผมออกเป็นส่วนๆ แล้วทามาสก์จากโคนผมจรดปลายผม

-คลุมผมด้วยหมวกอาบน้ำ ทิ้งไว้ 30-90 นาที จากนั้นสระผมให้สระอาด แล้วลงครีมนวดผมเพื่อบำรุงเป็นการปิดท้าย

-สำหรับผมแห้งควรใช้สัปดาห์ละสองครั้ง และสำหรับผมมันควรใช้เพียงสัปดาห์ละครั้ง

 

ข้อแนะนำ

-ไม่ควรทามาสก์ที่โคนผมหากมีผมมัน 

-น้ำผึ้งเป็นส่วนผสมที่มีความเหนียว อาจทำให้ลอนผมดูยุ่งและฟู สูตรนี้จึงไม่เหมาะกับผมหยิกหรือหยิกหยักศก

 

 

2.น้ำมันมะกอกกับไข่

 

สูตรนี้เสริมประโยชน์ของไข่ไก่ ทั้งโปรตีน ไขมัน และสารอาหารอื่นๆ อีกมากมายที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม ในไข่แดงอุดมไปด้วยน้ำมันที่มีไขมัน ซึ่งช่วยบำรุงและซ่อมแซมเส้นผมที่เสียหาย ไข่ขาวมีเอนไซม์ที่ช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินออกจากเส้นผม สูตรนี้จึงช่วยเพิ่มความเงางามและทำให้ผมนุ่มขึ้น

 

ส่วนผสม

-สำหรับผมแห้งใช้ไข่แดง 2 ฟอง

-สำหรับผมมันใช้ไข่ขาว 2 ฟอง

-สำหรับผมธรรมดาใช้ไข่ 1 ฟอง

-น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ

 

ขั้นตอนการเตรียม

-สำหรับผมแห้งหรือผมมัน ให้แยกไข่แดงและไข่ขาวออกจากกัน 

-ผสมไข่กับน้ำมันมะกอกลงในชามจนส่วนผสมเป็นเนื้อครีม

-ปรับสัดส่วนปริมาณน้ำมันมะกอกให้เหมาะกับความยาวของเส้นผมได้

 

วิธีใช้

-สระผมด้วยแชมพู โดยไม่ต้องใช้ครีมนวดผม

-แบ่งผมด้วยหวีซี่ห่างโดยไม่ต้องเป่าผมให้แห้ง แล้วชโลมส่วนผสมโดยเน้นที่ปลายผมเป็นพิเศษ จากนั้นทิ้งไว้20 นาที

-สระผมด้วยน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำเย็น แล้วเป่าผมให้แห้งด้วยลมเย็น

-ควรใช้มาส์กนี้สัปดาห์ละสองครั้ง

-สามารถเก็บส่วนผสมที่เหลือลงในภาชนะที่ปิดสนิท แล้วแช่ตู้เย็นไว้ได้หนึ่งสัปดาห์

 

 

3.น้ำมันมะกอกกับอะโวคาโด

 

น้ำมันมะกอกและอะโวคาโดสามารถช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสียให้นุ่มสลวยและเงางาม ในอะโวคาโดอุดมด้วยกรดโอเลอิก กรดไขมันโอเมก้า 3 สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินเอ บี และอี สูตรนี้ยังช่วยคลายการพันกันของเส้นผม ทำให้ผมจัดทรงง่าย

 

ส่วนผสม

-อะโวคาโดสุก 1 ลูก

-น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ

 

ขั้นตอนการเตรียม

-บดอะโวคาโดในชาม จากนั้นเติมน้ำมันมะกอกลงไป แล้วผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน หากต้องการให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ สามารถเติมน้ำผึ้งลงไปได้ 2 ช้อนโต๊ะ

 

วิธีใช้

-สระผมเพื่อขจัดคราบและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่บนเส้นผม

-แบ่งผมด้วยหวีซี่ห่างโดยไม่ต้องเป่าผมให้แห้ง จากนั้นใช้มาส์กผมโดยเน้นไปที่โคนผมและปลายผม

-คลุมผมด้วยผ้าขนหนูหรือหมวกอาบน้ำ รอประมาณ 45-60 นาที.

-สระผมด้วยแชมพูแล้วใช้ครีมนวดผมบำรุงเพิ่มเติม

-เป่าผมให้แห้งโดยใช้ลมเย็น

-ใช้มาส์กสูตรผมนี้เดือนละครั้ง แต่หากผมเสียหรือแห้งมาก ควรใช้สัปดาห์ละครั้ง

 

มาสก์บำรุงผมแห้ง

 

4.น้ำมันมะกอกกับกล้วยสุก

 

สูตรน้ำมันมะกอกและกล้วยนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมแห้งจนรู้สึกหยาบกระด้างมาก โดยจะช่วยให้ผมนั้นเรียบลื่น นุ่มสลวย และสุขภาพดีขึ้น ซึ่งในกล้วยนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยซ่อมแซมผมที่เสียหายจากแสงแดด และยังให้ความชุ่มชื้น เสริมสร้างความแข็งแรงให้เส้นผม พร้อมกับเพิ่มความเงางาม นอกจากนี้ยังมีโพแทสเซียม คาร์โบไฮเดรต และน้ำมันธรรมชาติ ช่วยคงความยืดหยุ่นตามธรรมชาติของเส้นผม ลดผมแตกปลายได้ดี ป้องกันผมขาดร่วง ไปจนถึงรักษารังแค และลดการสูญเสียความชุ่มชื้นจากเส้นผมอีกด้วย

 

ส่วนผสม

-กล้วยสุก 1 ลูก

-น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ

 

ขั้นตอนการเตรียม

-ปั่นหรือบดกล้วยให้ละเอียดแล้วเติมน้ำมันมะกอกผสมลงไป คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว

 

วิธีใช้

-สระผมเพื่อขจัดสิ่งสกปรกสะสม แล้วแบ่งผมขณะเปียกออกเป็นส่วนๆ ชโลมมาสก์ผมให้ทั่ว โดยเน้นที่ปลายผม

-คลุมผมด้วยหมวกอาบน้ำ แล้วทิ้งไว้ 30 นาที

-สระผมออกให้สะอาดด้วยน้ำเย็นเพื่อปรับสภาพผม

-ควรมาสก์สัปดาห์ละครั้ง

 

ข้อแนะนำ

-หากสภาพผมมัน สูตรนี้ไม่ควรใช้บริเวณโคนผมและหนังศีรษะ

-ผมหยิกหรือผมลอนอาจจะล้างออกยากหน่อย

 

 

5.น้ำมันมะกอกกับน้ำมันมะพร้าว

 

น้ำมันมะกอกและน้ำมันมะพร้าวช่วยบำรุงผมหยิกที่ผ่านการทำเคมี ช่วยฟื้นฟูผมที่ผ่านการทำสี ฟอกสี ผมจัดแต่งทรงด้วยความร้อน และผมขาดง่ายได้เป็นอย่างดี น้ำมันมะพร้าวมีประสิทธิภาพโดดเด่นในการซึมซาบเข้าสู่เส้นผมและป้องกันการสูญเสียโปรตีน ช่วยให้ผมชุ่มชื้น นุ่มสลวย คลายการพันกัน และทำให้ผมที่หยาบกระด้างเรียบลื่นขึ้น นอกจากนี้ ใช้กับผมตรงหรือผมหยักศกเพื่อเพิ่มความเงางามได้ และในน้ำมัน

 

ส่วนผสม

-น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ

-น้ำมันมะพร้าว 3 ช้อนโต๊ะ

 

ขั้นตอนการเตรียม

-อุ่นน้ำมันมะพร้าวมประมาณ 3-4 วินาที จากนั้นเติมน้ำมันมะกอกลงไปแล้วผสมให้เข้ากัน

 

วิธีใช้

-ใช้หวีซี่ห่างเพื่อสางผม แล้วแบ่งผมของคุณออกเป็น 6 ส่วน จากนั้นเริ่มนวดมาส์กผมจากโคนจรดปลายผมเป็นวงกลม แล้วสวมหมวกอาบน้ำแล้วทิ้งไว้ 45 นาที เมื่อครบเวลาให้สระผมให้สะอาด แล้วเพิ่มการบำรุงด้วยเซรั่มบำรุงผม

 

ข้อแนะนำ

-ผมตรงและเส้นเล็ก ไม่ควรใช้น้ำมันมะพร้าวมากเกินไป พราะอาจทำให้ผมลีบแบนลงได้

 

 

6.น้ำมันมะกอกกับโยเกิร์ต

 

มาส์กสูตรน้ำมันมะกอกผสมกับโยเกิร์ตนั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผมชี้ฟูและผมขาดน้ำหรือแห้งมาก เพราะเป็นสูตรที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้ ทำให้ผมนุ่มขึ้น นและบำรุงเส้นเส้นผมได้อย่างล้ำลึก นอกจากนี้กรดแลคติกและโปรตีนในโยเกิร์ตยังช่วยบำรุงรากผมและรักษาสุขภาพของรากผมในแข็งแรงได้ด้วย

 

ส่วนผสม

-โยเกิร์ต 3 ช้อนโต๊ะ

-น้ำมันมะกอก 4 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการเตรียม

-ผสมโยเกิร์ตกับน้ำมันมะกอกลงในถ้วย แล้วคนให้เข้ากัน

 

วิธีใช้

-แบ่งผมเป็นส่วนๆ แล้วใช้มาส์กนวดเบาๆ เป็นวงกลม ทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น

แล้วสระผมให้สะอาด ก่อนปิดท้ายการบำรุงด้วยเซรั่มบำรุงผมที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา

 

 

เคล็ดลับเพิ่มเติม

 

-ใช้แชมพูที่ไม่มีซัลเฟตหรือสารลดแรงตึงผิว แม้แชมพูเหล่านี้อาจไม่มีฟองมากนัก แต่มีความอ่อนโยนกว่าแชมพูทั่วไป

-ควรล้างผมด้วยน้ำอุณหภูมิห้องเสมอ และใช้ลมเย็นในการเป่าผมให้แห้ง เพื่อป้องกันเส้นผมสูญเสียความชื้น หากจำเป็นต้องใช้ลมร้อน ให้เป่าห่างจากผมประมาณ 15 ซม.

-การสระผมก่อนใช้มาสก์ ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองที่ขัดขวางการดูดซับสารอาหารของเส้นผมได้

 

หากสนใจผลิตภัณฑ์ Dcash Professional สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากฝ่ายบริการลูกค้าที่ช่องทางติดต่อดังนี้ค่ะ

Website : www.dcash.co.th

Facebook : Dcash Professional

Line ID : @dcashpro (มี@ด้านหน้า)

Instagram : dcash_professional

โทร. 02-726-2300 ต่อ 183 หรือ 511

แชร์