ปัญหาผม ไม่ว่าจะเป็น ผมแห้งเสีย แตกปลาย ขาดร่วงหรือรังแค แม้ว่าเราจะดูแลเส้นผมมากแค่ไหน เราก็อาจจะต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เนื่องจากมลภาวะที่ต้องเจอในแต่ละว้น สภาพอากาศ การดูแลเส้นผมที่อาจไม่ถูกวิธีหรือไม่เหมาะสมกับสภาพผม รวมถีงปัจจัยอื่นๆ ที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งในวันนี้ Dcash Professional จะมาแชร์เคล็ดลับการดูแลเส้นผมที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ สามารถจัดการ ปัญหาผม ที่เราต้องพบเจอกันบ่อยๆ ได้ โดยที่จะพลิกฟื้นสภาพผมให้ค่อยๆ กลับมาแข็งแรง เฉิดฉาย เจิดจรัสได้ไม่ยาก
1.รังแค
รังแคเป็นความผิดปกติบริเวณหนังศีรษะที่พบบ่อย โดยมีลักษณะเป็นสะเก็ดสีขาวๆ มีอาการคันและมีการอักเสบร่วมด้วย ซึ่งมักมีสาเหตุมาจากหนังศีรษะแห้ง ไขมันส่วนเกิน เส้นผมมันเพราะไม่สระผม หรือแพ้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม แต่ที่พบเจอบ่อยๆ จะมาจากผิวหนังศีรษะแห้ง หนังศีรษะติดเชื้อรา ซึ่งมีโอกาสเกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง นอกจากนี้ ที่ยังพบบ่อยคือ หนังศีรษะระคายเคืองและอักเสบเพราะแพ้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ทำให้มีการผลัดเซลล์ เกิดอาการคัน รอยแดง และหนังศีรษะลอกเป็นแผ่น
คนที่เป็นรังแคไม่ควรเกาและแปรงหนังศีรษะแงๆ บ่อยๆ เพราะเป็นการทำร้ายเส้นผม อาจทำให้รากผมเสียหาย ส่งผลให้ผมร่วงได้ และการเป็นรังแคยังทำให้ผมร่วงได้หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รักษาให้หายอีกด้วย
วิธีจัดการปัญหารังแค
-เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลปัญหารังแคโดยเฉพาะ เช่น การใช้แชมพูขจัดรังแค หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ
-เลือกใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกและคีโตโคนาโซล เพราะเป็นสารที้สามารถรักษาและป้องกันรังแคได้ดี
-หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในปริมาณสูง เพราะจะยิ่งทำให้ผมแห้งเสีย และหนังศีรษะแห้งยิ่งขึ้น
2.ผมแตกปลาย
ผมแตกปลายคือผมที่ไม่มีน้ำมันจากหนังศีรษะหรือความชุ่มชื้นไปหล่อเลี้ยงบริเวณปลายผม เส้นผมจึงมีลักษณะแห้งและแตกปลาย โดยมักจะเริ่มแตกจากจุดต่างๆ ของแกนผม และการหวีผมแรงๆ การไม่บำรุงผมอย่างเหมาะสม การทำเคมีต่างๆ ทั้งการทำสี ฟอกสี ยืด หรือดัด รวมถึงสภาพแวดล้อม เช่น โดดแสงแดดมากเกินไป ก็อาจมีส่วนทำให้ผมเสียหาย แตกปลายได้เช่นกัน
วิธีจัดการปัญหาผมแตกปลาย
-บำรุงผมด้วยครีมนวดผมโดยเน้นที่ปลายผมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้ปลายผมแห้ง
-ควรเป่าผมให้แห้งหลังสระผมด้วยอุณหภูมิต่ำ และใช้หวีซี่ห่างสางผมไม่ให้พันกัน
-ควรใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนก่อนจัดแต่งทรงผมด้วยอุปกรณ์จัดแต่งทรง เพื่อสร้างเกราะป้องกันไม่ให้ความร้อนจากเครื่องมือสัมผัสกับเส้นผมโดยตรง
-สามารถฟื้นบำรุง ซ่อมแซม และลดปัญหาผมแตกปลายได้ด้วยการใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันอัลมอนด์บำรุงผม
-ใช้ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์ในการซับผมเพื่อป้องกันและลดปัญหาการแตกปลาย
-ควรเล็มปลายผมออกในกรณีที่เกิดผมแตกปลายมาก แล้วปรับสภาพผมด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการแตกปลายในอนาคต
3.ผมหงอกก่อนวัย
เมื่ออายุมากขึ้น เส้นผมจะสูญเสียเมลานินในรูขุมขน ทำให้เส้นผมเปลี่ยนสีจากดำเป็นสีเงินหรือสีขาว และแม้ว่าผมหงอกจะเป็นธรรมชาติของความชรา แต่ถ้าใครที่มีผมหงอกในช่วงอายุ 20 ต้นๆ หรือ 30 ต้นๆ แสดงว่าเกิดปัญหาผมหงอกก่อนวัย ซึ่งสาเหตุอาจมาจากพันธุกรรม ความเครียด การขาดวิตามินและแร่ธาตุ สัมผัสกับสารเคมี การขาดเมลานิน หรือแม้แต่การจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนบ่อยๆ ก็อาจทำให้ผมหงอกได้
วิธีจัดการปัญหาผมหงอกก่อนวัย
หากต้องการปกปิดผมหงอก สามารถใช้แชมพูเปลี่ยนสีผมหรือย้อมผมแบบกึ่งถาวรได้ รวมถึงควรพักผ่อนให้เพียงพอ ลดระดับความเครียด ใช้เครื่องมือจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนให้น้อยลง หรือการนวดหนังศีรษะด้วยน้ำมันบำรุงผมจากธรรมชาติ และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จะสามารถช่วยป้องกันผมหงอกก่อนวัยได้
4.ผมชี้ฟู
ผมชี้ฟูคือเส้นผมแห้งจนไร้น้ำหนัก เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ เส้นผมสูญเสียความชื้นจนเกล็ดผมและแกนผมถูกทำลาย ความร้อนจากเครื่องมือจัดแต่งทรงผมที่ทำลายชั้นโปรตีนเคราตินซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในโครงสร้างเส้นผม เส้นผมไม่ได้รับการดูแลที่ดี ใช้เครื่องมือจัดแต่งทรงผมบ่อยๆ การทำเคมี รังสียูวีจากแสงแดด ความชื้นในอากาศ การดื่มน้ำน้อย และพันธุกรรมก็สามารถทำให้ผมชี้ฟูได้เช่นกัน
วิธีการจัดการปัญหาผมชี้ฟู
-การใช้ลีฟอินหรือเซรั่มบำรุงผมเป็นประจำช่วยลดผมชี้ฟูได้
-ควรเลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมสูตรพิเศษสำหรับควบคุมผมชี้ฟู
-เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนก่อนเป่าผมให้แห้งและใช้แปรงขนหมูป่าแปรงผมเพื่อไม่ให้เส้นผมเสียหาย
-หลีกเลี่ยงการสระผมบ่อยๆ และการฟอกสีผม
-หากต้องเผชิญแดดจัด อาจปกป้องเส้นผมจากรังสียูวีด้วยการสวมหมวกได้
-การถักเปียหลวมๆ เป็นทรงที่ไม่ทำร้ายเส้นผม และช่วยทำให้ผมแลดูไม่ชี้ฟูได้
5.ผมแห้ง
ผมขาดน้ำมันตามธรรมชาติที่ผลิตโดยหนังศีรษะจะดูหยาบกร้าน แห้งเสีย และไร้ชีวิตชีวา มีแนวโน้มที่จะพันกันง่ายมาก ซึ่งสาเหตุมาจากการสระผม ทำเคมี และจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนบ่อยเกินไป โดยเฉพาะการสระผม แชมพูจะดึงน้ำมันธรรมชาติออกจากหนังศีรษะจนทำให้เส้นผมแห้ง
แลดูไม่มีน้ำหนัก นอกจากนี้การว่ายน้ำในสระคลอรีน รวมถึงร่างกายขาดวิตามินยังส่งผลให้เส้นผมแห้งได้อีกด้วย
วิธีจัดการปัญหาผมแห้ง
-ใช้มาสก์บำรุงผมอย่างสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะช่วยฟื้นบำรุงผมแห้งได้อย่างล้ำลึกและรวดเร็ว
-เลือกใช้แชมพูและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมสูตรอ่อนโยนที่มีส่วนผสมของโปรตีนและแร่ธาตุซึ่งจำเป็นต่อการฟื้นฟูสภาพเส้นผมแห้ง เช่น โปรตีนเคราติน อาร์แกนออยล์ น้ำมันมะกอก
-เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมีทำร้ายเส้นผม เช่น ซัลเฟต และลดการใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมด้วยความร้อน จะช่วยป้องกันปัญหาผมแห้งได้ในระยะยาว
-ควรรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ จำพวกผัก ผลไม้ ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงดื่มน้ำให้เพียงพอ
6.ผมมัน
หนังศีรษะของคนเราจะมีต่อมไขมันที่คอยผลิตน้ำมันธรรมชาติเรียกว่า “ซีบัม” ออกมาเพื่อทำให้เส้นผมมีความชุ่มชื้นเงางาม ซึ่งหากมีการผลิตมากเกินไปจะทำให้ผมมันเยิ้มได้ โดยสาเหตุนั้นมาจากการสระผมบ่อยๆ จนผมแห้ง ทำให้ต่อมไขมันทำงานหนัก ผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อชดเชยน้ำมันที่สูญเสียไป ภาวะแบบนี้บางครั้งอาจจะส่งผลให้ผมมันเยิ้ม จนลีบแบนได้ ส่วนการไม่สระผมหลายวัน เส้นผมจะสะสมสิ่งสกปรกและความมันเอาไว้มากก็มีโอกาสทำให้ผมมันและเกิดปัญหารังแคตามมาได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ การใช้มาสก์ผม หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีความเข้มข้นมากเกินไป การรับประทานอาหารขยะ (Junk food) การแปรงผมบ่อยๆ และพันธุกรรม ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมมันเยิ้มได้
วิธีจัดการปัญหาผมมัน
-หลีกเลี่ยงการสระผมทุกวัน ควรสระผมเพียงสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
-ใช้แชมพูที่อ่อนโยนสำหรับสภาพผมมันโดยเฉพาะ เพื่อช่วยชะล้างน้ำมันส่วนเกิน แต่ไม่ทำให้หนังศีรษะสูญเสียความชื้นตามธรรมชาติ
-หลีกเลี่ยงการใช้ครีมนวดผมบริเวณหนังศีรษะ
-เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ล้สงออกง่าย และปราศจากน้ำมัน
-เน้นทานอาหารเพื่อสุขภาพจำพวกผักใบเขียว
-ลดการจัดแต่งทรงผม และสระผมด้วยน้ำเย็นจะสามารถแก้ปัญหาผมมันเยิ้มได้
7.ผมขาดร่วง
ธรรมชาติของเส้นผมแต่ละเส้นนั้นจะมีเกล็ดซ้อนทับกัน เมื่อเกล็ดผมอ่อนแอก็มีแนวโน้มที่จะขาดร่วงได้ง่ายมากๆ ส่วนใหญ่มักเกิดกับเส้นผมที่มีสภาพแห้งเสีย อ่อนแอ และเปรอะบาง ซึ่งผมที่ไม่มีความชุ่มชื้นไปหล่อเลี้ยงโครงสร้างจนแห้งและดูหยาบกร้าน ที่เกิดจากการการทำสีผม ฟอกผม โดยเฉพาะการใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมสีที่ไม่มีสารในการปรับสภาพเส้นผม เป็นอีกสาเหตุหลักของผมขาดร่วง นอกจากนี้การเกิดผมแตกปลาย การหวีผมแรงๆ การเป่าผมด้วยความร้อนสูงก็ทำให้ผมขาดร่วงได้เช่นกัน
วิธีจัดการปัญหาผมขาดร่วง
-หวีผมเบา ๆ ด้วยหวีซี่ห่างเสมอ
-นวดหนังศีรษะและเส้นผมด้วยน้ำมันจากธรรมชาติ โดยอุ่นให้ไม่ร้อนจนเกินไป จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและบำรุงเส้นผมได้
-บำรุงผมด้วยครีมนวดผมทุกครั้งที่สระผม
-หลีกเลี่ยงการเป่าผมด้วยความร้อนสูง
-ในกรณีที่แห้งเสียมาก ควรตัดผมหรือเล็มปลายผมเป็นประจำ เพื่อลดผมแตกปลายและผมขาดหลุดร่วง
อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม
น้ำมันมะกอกกับการบำรุงผมแห้งเสีย (พร้อมสูตรมาสก์ Home Made)
ดีแคช อินทัช วิตามินอี ที่สุดแห่งเกราะป้องกันมลภาวะและความร้อน
6 ขั้นตอน หนีบผมยังไงให้ตรงสวย ไม่แห้งเสีย
หากสนใจผลิตภัณฑ์ Dcash Professional สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากฝ่ายบริการลูกค้าที่ช่องทางติดต่อดังนี้ค่ะ
Website : www.dcash.co.th
Facebook : Dcash Professional
Line ID : @dcashpro (มี@ด้านหน้า)
Instagram : dcash_professional
โทร. 02-726-2300 ต่อ 183 หรือ 511