วิธีทดสอบอาการแพ้ สีย้อมผม

การแพ้ผลิตภัณฑ์สีย้อมผม

การย้อมสีผม อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ไม่ต่างจากการแพ้ยาหรือแพ้อาหาร เพราะผลิตภัณฑ์สีย้อมผมนั้นมีส่วนผสมทางเคมีที่ทำปฏิกิริยาระคายเคืองต่อหนังศีรษะ และมีอาการผิวหนังอักเสบบริเวณที่สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักพบอาการแพ้อยู่ 2 ประเภท ที่อาจเกิดจากสารเคมีในสีย้อมผม เช่น (Paraphenylenediamine , PPD) (P-Toluenediamine, PTD) (Hydrogen Peroxide ) ได้ดังนี้…

ลักษณะการแพ้ที่พบบ่อยจากการทำสีผม

เรามุ่งมั่น และพัฒนาในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มีความทันสมัย และตามเทรนด์แฟชั่นจากอดีตจนถึงปัจจุบัน และวันนี้ สินค้าเราได้รับความต้องการสูง มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งยังนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพื่อพัฒนาศักยภาพ

1.อาการแพ้แบบเฉียบพลัน 

เป็นลักษณะอาการที่พบได้บ่อยในผู้ที่กัดสีผมก่อนย้อมผม หรือผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์สีย้อมผมไม่ได้มาตรฐาน โดยจะเริ่มมีอาการระหว่างการย้อมผม หรือหลังจากย้อมผมทันที ส่วนใหญ่มักแสดงอาการแสบคันบริเวณหนังศีรษะ หรือบริเวณผิวหนังที่สัมผัสกับผลิตภัณฑ์สีย้อมผม ในผู้ที่มีอาการแพ้มาก อาจมีตุ่มใสขึ้น เปลือกตาบวม หรือใบหน้าบวมร่วมด้วย

2.อาการแพ้แบบเรื้อรัง 

กลุ่มนี้จะมีอาการแบบค่อยเป็นค่อยไป เมื่อย้อมผมมาในระยะนึงแล้ว สีผมจะเริ่มเฟดหรือซีดจางลง ซึ่งเคมีที่หลุดออกไปสัมผัสกับของใช้ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น หมอน ผ้าห่ม หรือผ้าเช็ดตัว เมื่อสิ่งของเหล่านั้นมาสัมผัสโดนบริเวณผิวหน้าก็อาจจะกระตุ้นให้เกิดผดผื่นหรือเป็นสิวขึ้นเรื้อรังได้

3 ข้อน่ารู้ ! ทำสีผมอย่างไรให้ปลอดภัย

3 ข้อน่ารู้ ทำสีอย่างไรให้ปลอดภัย-01_0

1.ทดสอบอาการแพ้

ขั้นตอนการทดสอบการแพ้ของผิวหนัง (แพทซ์เทสต์)

3 ข้อน่ารู้ ทำสีอย่างไรให้ปลอดภัย

1.1 เทครีมเปลี่ยนสีผมและไฮเปอร์ครีม อัตราส่วน 1:1 ปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียว ลงในภาชนะที่ไม่ใช่โลหะ ผสมให้เข้ากันดีเป็นเนื้อเดียวกัน

1.2 ทาครีมเปลี่ยนสีผมที่ผสมไว้ ขนาดประมาณเหรียญ 5 บาท ตรงบริเวณด้านในของแขน (ตามภาพ) แล้วปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ
*ห้ามโดนน้ำ หากเสี่ยงต่อการเปียกน้ำต้องหาแผ่นพลาสเตอร์มาปิดป้องกันการเปียกน้ำ

1.3 ทิ้งไว้เป็นเวลา 48 ชั่วโมง *กรุณารักษาเวลาอย่างเคร่งครัด
-สังเกตครั้งแรกหลังทาน้ำยาแล้ว 30 นาที
-สังเกตอีกครั้งหลังทาน้ำยาไปแล้ว 48 ชั่วโมง
*หากมีอาการผิดปกติของผิวหนัง เช่น ผื่นแดง คัน ผิวหนังพุพอง อักเสบ ระคายเคืองในบริเวณที่ทาน้ำยา ให้ใช้นิ้วถูและล้างออกทันที

1.4 หากไม่เกิดความผิดปกติใดๆ ภายหลัง 48 ชั่วโมง สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ครีมเปลี่ยนสีผมได้

*ในกรณีที่ทำแพทช์เทสต์แล้วพบอาการผิดปกติ กรุณาติดต่อบริษัทฯ โทร 02-726-2300 ต่อ 500

แนะนำให้ทำแพทซ์เทสก่อนการใช้ 48 ชั่วโมง (2 วัน) ทุกครั้งก่อนใช้ผลิตภัณฑ์

แม้ว่าจะเคยทำการทดสอบแล้วไม่พบความผิดปกติใดๆ 

เนื่องจากสภาพร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาที่อาจส่งผลให้เกิดอาการแพ้ได้

2.Checklist 8 ข้อควรระวังก่อนการเปลี่ยนสีผม

3 ข้อน่ารู้ ทำสีอย่างไรให้ปลอดภัย-03_0

-ไม่มีอาการผิดปกติจากการทดสอบอาการแพ้ (แพทช์เทสต์)
-ไม่เคยแพ้ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมชนิดนี้ หรือชนิดอื่นๆ มาก่อน
-ไม่มีแผลหรือปัญหาผิวหนังบริเวณศีรษะ
-ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ในสถานที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท
-ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์หลังการโกนทันที เนื่องจากอาจมีบาดแผลเล็กๆ บนผิวหนังซึ่งอาจจะทำให้ระคายเคืองได้
-ระวังไม่ให้ครีมเปลี่ยนสีผมไหลเข้าตา *กรณีที่ครีมเปลี่ยนสีผมไหลเข้าตา ให้รีบล้างออกทันทีด้วยน้ำสะอาด
-สวมใส่ถุงมือขณะลงครีมเปลี่ยนสีผม และทาปิโตรเลียมเจลหรือโลชั่นบริเวณรอบๆ ไรผมเพื่อป้องกันการเปรอะเปื้อนบนผิวหน้า
-หลีกเลี่ยงการดัดผมในช่วงเวลา 1 สัปดาห์ ก่อนและหลังการเปลี่ยนสีผม เพราะอาจทำให้ผมแห้งเสียและสีผมไม่ติดทนและอาจเกิดการแพ้ได้

3.ศึกษาวิธีการใช้งาน

3 ข้อน่ารู้ ทำสีอย่างไรให้ปลอดภัย

ขั้นตอนที่ 1
ผสมครีมเปลี่ยนสีผมปริมาณ 1 หลอด และไฮเปอร์ครีม 1 ขวด ลงในภาชนะที่ไม่ใช่โลหะ ตามอัตราส่วนผสมที่ระบุไว้บนข้างกล่อง
ขั้นตอนที่ 2
ทาครีมเปลี่ยนสีผมที่ผสมแล้วลงบนผมให้ทั่ว และทิ้งไว้ 20-30 นาที
ขั้นตอนที่ 3
สระแล้วนวดผมด้วยแชมพูและครีมนวดผมหรือทรีทเม้นท์

——–

หากสนใจผลิตภัณฑ์ Dcash Professional สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากฝ่ายบริการลูกค้าที่ช่องทางติดต่อดังนี้
Website : www.dcash.co.th
Facebook : Dcash Professional
Line ID : @dcashpro (มี@ด้านหน้า)
Instagram : dcash_professional
โทร. 02-726-2300 ต่อ 183 หรือ 511