สำหรับการยืดผม แม้ว่าจะทำโดยช่างมืออาชีพ หรือทำเองที่บ้าน และแม้แต่ใช้เครื่องหนีบผมด้วยความร้อนก็อาจส่งผลเสียต่อเส้นผมของเราได้ เพราะทั้งความร้อนและสารเคมีต่างๆ ที่อยู่ในครีมยืดสามารถทำลายความมีชีวิตชีวาของเส้นผมตามธรรมชาติลงได้ และวันนี้ Dcash Professional จะมาแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหลังจากยืดผม สาเหตุของผมเสียจากครีมยืดผม ยิ่งสาวๆ ที่เพิ่งเคยยืดผมครั้งแรก อาจยังมีข้อสงสัย ไม่แน่ใจว่าเส้นผมของเราจะเป็นยังไงบ้าง แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ใช่ว่าการยืดผมจะอันตรายและมีผลเสียเสมอไป หลายปัจจัยขึ้นอยู่กับการบำรุงเส้นผม การดูแลรักษาหลังยืด ไปจนถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีมยืดผมที่มีประสิทธิภาพหรือไม่มีประสิทธิภาพด้วย
สาเหตุของผมเสียจากครีมยืดผม มีอะไรบ้าง
ผลข้างเคียงของการยืดผมถาวรและการยืดผมที่บ้านมีมากมาย ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น ผมเริ่มดูหมองๆ ไร้ชีวิตชีวา ผมเริ่มแห้งเสีย มีการแตกปลาย ไปจนถึงขาดร่วง รวมถึงอาการแพ้สารเคมีต่างๆ
1. ผมแห้งเสีย
การใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนและการทำเคมีต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ จะดึงเอาน้ำมันธรรมชาติของเส้นผมออกไป จนทำให้ผมกลายสภาพเป็นแห้งเสียและเปรอะบาง โดยเราอาจสังเกตเห็นได้ว่า ตอนยืดผมหรือใช้เครื่องหนีบผมจะมีไอน้ำลอยออกมา ซึ่งเครื่องหนีบทำให้ความชื้นออกจากเส้นผมเพื่อยืดตรงโดยการระเหยกลายเป็นไอน้ำนั่นเอง
2. ผมชี้ฟู
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าการยืดผมให้ตรงนั้นจะช่วยจัดการกับผมชี้ฟูได้ แต่แท้จริงแล้ว การยืดผมบ่อยๆ ทำให้ผมแห้งเสียจนชี้ฟูมากขึ้นไม่ใช่น้อยลง
3. ผมขาด
การยืดผมทั้งแบบชั่วคราวและถาวรอาจทำให้เส้นผมแห้งเสียมากเกินไปจนเปรอะบาง ทำให้โครงสร้างเส้นผมอ่อนแอลงและทำให้เส้นผมขาด
4. ผมแตกปลาย
ผมแตกปลายมักเกิดขึ้นเมื่อโครงสร้างเส้นผมอ่อนแอจนขาด ซึ่งนอกจากเป็นการบ่งชี้ถึงสภาพเส้นผมเปราะบางอย่างชัดเจนแล้ว ยังทำให้ปอยผมดูไม่สวยอีกด้วย หากเริ่มสังเกตเห็นว่ามีผมแตกปลายให้ลองหยุดใช้เครื่องหนีบผมดู จะเห็นว่าผมแตกปลายน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
Quick Tip
เล็มปลายผมเพื่อกำจัดผมแตกปลาย
ในกรณีที่แตกปลายมากๆ จนไม่สามารถ
ฟื้นฟูด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมได้
5. ผมไร้ชีวิตชีวา
น้ำมันธรรมชาติจากหนังศีรษะและความชื้นในเส้นผมมีส่วนช่วยให้เส้นผมเงางามและมีสุขภาพดี เมื่อไหร่ที่ 2 ส่วนประกอบนี้หายไปจากการยืดผม เส้นผมจะดูไม่มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
6. ผมร่วง
การใช้ความร้อนเป็นประจำไม่เพียงแต่จะทำลายโครงสร้างเส้นผมเท่านั้น แต่ยังทำลายรูขุมขนบนหนังศีรษะ และสารเคมีที่ใช้ในการยืดผมถาวรยังสร้างความเสียหายให้แก่รากผมอีกด้วย ซึ่งถ้าหากรากผมเริ่มอ่อนแอ แน่นอนว่าปัญาหาที่จะตามมาย่อมเป็นอาการของเส้นผมที่เริ่มหลุดร่วงจนส่งผลให้ผมบาง รวมถึงปัญหาผมยาวช้าลงด้วย
7. ผมร่วงถาวร
หากคิดว่าเส้นผมสามารถทนต่อการยืดผมได้ยาวนานหลายปีและเส้นผมจะฟื้นฟูให้มีสุขภาพดีขึ้นได้ด้วยการหยุดหนีบผมสักวัน นั่นเป็นความคิดที่ผิดอย่างแรง เพราะการใช้พวกน้ำยา Relaxing และอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนซ้ำๆ นานๆ จะทำลายรูขุมขนบนหนังศีรษะและทำให้ผมร่วงถาวรได้
8. อาการคันหนังศีรษะ
ความผิดปกติของรูขุมขนบนหนังศีรษะทำให้การผลิตน้ำมันธรรมชาตินั้นน้อยเกินไป ทำให้เกิดความแห้ง หนังศีรษะลอกเป็นขุย และมีอาการคันจนอาจลามไปถึงหน้าผากและลำคอได้ด้วย
9. ผิวของเส้นผมเกิดการเปลี่ยนแปลง
สารเคมีที่ใช้ในการยืดผมถาวรนั้นส่งผลเสียต่อผิวเส้นผม อาจทำให้ดูหยาบกระด้างมากขึ้น ซึ่งการดูแลรักษาเส้นผมด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงการมาส์กผมด้วยวัตถุดิบธรรมชาติก็อาจยังไม่ช่วยให้เส้นผมกลับมาดูแข็งแรงได้ และวิธีเดียวที่จะจัดการปัญหานี้ได้อยู่หมัดก็คือ หยุดพักการยืดผมแล้วปล่อยให้ผมยาวออกมาใหม่
10. อาการระคายเคืองตามร่างกาย
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการยืดผมจะปล่อยก๊าซฟอร์มาลดีไฮด์เมื่อเจอความร้อน นอกจากจะเกิดการระคายเคืองที่หนังศีรษะแล้ว การสัมผัสกับก๊าซนี้บ่อยๆ ยังทำให้ระคายเคืองผิวหนัง จมูก ดวงตา และปอดอีกด้วย ส่งผลให้บางคนเป็นแพ้หนักๆ จนเป็นโรคหอบหืดได้
11.อาการแพ้สารเคมี
สาวๆ บางคนไม่รู้ตัวว่าแพ้สารเคมีที่อยู่ในครีมยืดผมถาวร โดยอาการแพ้สามารถเกิดขึ้นได้ทันทีหลังยืดผมหรือหลังจากนั้นสองสามวัน เช่น ระคายเคืองหนังศีรษะหรือผิวหนัง มีผื่นแดง เกิดอาการอักเสบ และเคืองตา
วิธีป้องกันและลดปัญหาที่จะเกิดจากการยืดผมหรือหนีบผม
-ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนสำหรับเส้นผมก่อนยืดผมทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผมแห้งเสียจากเครื่องหนีบสำหรับยืดผมหรือสารเคมีอื่นๆ
-พยายามจำกัดการยืดผมให้เหลือเพียงสัปดาห์ละสองครั้ง หลีกเลี่ยงการทำทุกวันไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
-ใช้เครื่องหนีบผมด้วยอุณหภูมิต่ำหรือปานกลาง
-อย่าหนีบผมตอนที่ผมเปียก เพราะผมมีสถาพอ่อนแอกว่าตอนแห้งและมีโอกาสจะขาดง่ายที่สุด
-บำรุงผมด้วยน้ำมันธรรมชาติ และใช้ครีมนวดผมที่เหมาะกับสภาพผมทุกครั้งหลังสระผม เพื่อคืนความชุ่มชื้น
-สามารถบำรุงเส้นผมด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงสูตรเข้มข้นได้ในทุก ๆ สองสัปดาห์เพื่อให้ผมฟื้นตัวเร็วขึ้น
-ใช้มาส์กผมธรรมชาติที่ทำจากโยเกิร์ต น้ำผึ้ง น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันมะกอกทุกสัปดาห์เว้นสัปดาห์เพื่อเสริมชุ่มชื้นตามธรรมชาติแก่เส้นผม
คำถามที่พบบ่อย
ถาม : ยืดผมแล้วไม่ตรง ยืดซ้ำได้ไหม
ตอบ : ยืดซ้ำได้โดยทิ้งระยะเวลาไว้สักราวๆ 3 เดือน แต่ทั้งนี้ระยะเวลาไม่เป็นผลต่อการฟื้นฟูสภาพผมเสีย ถ้าหากไม่หมั่นบำรุง ซึ่งต่อให้ทิ้งนานกว่า 3 เดือน สภาพเส้นผมก็ยังไม่แข็งแรงอยู่ดี
ถาม : ทำสีผมหลังจากยืดผมถาวรได้ไหม
ตอบ : ได้ โดยเว้นช่วงเวลาสักประมาณ 3-4 สัปดาห์ เพื่อให้ผมได้มีเวลาพักจากการโดนสารเคมี และอย่าลืมบำรุงผมด้วย
ถาม : ยืดผมถาวรอยู่ได้นานแค่ไหน
ตอบ : ขึ้นอยู่กับความยาวของเว้นผมที่งอกใหม่ และวิธีที่ใช้ยืดผมถาวร เช่น ยืดเคราติน รีบอนดิ้ง หรือยืดแบบธรรมดา โดยจะมีระยะเวลาเฉลี่ยแล้วราวๆ 3-6 เดือน
ถาม : ผมบางยืดผมได้ไหม
ตอบ : คนผมเส้นเล็ก หรือผมบางไม่เหมาะกับการยืดผมถาวร เพราะสภาพเส้นผมอาจเกิดความเสียหายได้ง่าย
สรุปประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ
-ผมร่วง ขาดร่วง และแตกปลายอาจเกิดจากการยืดผม
-ผมอาจแห้งเสีย เปราะบางเมื่อสัมผัสกับความร้อนจัดระหว่างยืดผม
-สารเคมีที่ใช้ในการยืดผมอาจทำให้รู้สึกระคายเคืองหนังศีรษะ และทำให้เกิดอาการคันตามผิวหนัง
-ไม่ควรหนีบผมตอนผมเปียก
-ควรปรับอุณภูมิเครื่องหนีบผมในระดับความร้อนต่ำหรือปานกลาง
หากสนใจผลิตภัณฑ์ Dcash Professional สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากฝ่ายบริการลูกค้าที่ช่องทางติดต่อดังนี้ค่ะ
Website : www.dcash.co.th
Facebook : Dcash Professional
Line ID : @dcashpro (มี@ด้านหน้า)
Instagram : dcash_professional
โทร. 02-726-2300 ต่อ 183 หรือ 511