ไขข้อสงสัย อันตรายจากสีย้อมผม

อันตรายจากสีย้อมผม

สีย้อมผม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นไอเทมที่ช่วยเปลี่ยนลุคธรรมดาๆ ของสาวๆ ให้สวยปังได้แบบพลิกโฉม ทั้งยังตามเทรนด์แฟชั่นให้สวยโดดเด่นได้เหมือนซูเปอร์สตาร์ และยังอัพลุคหนุ่มๆ ให้หล่อเท่มีเอกลักษณ์ได้หลากหลายสไตล์ รวมถึงกระชากวัยคนอายุมาก เปลี่ยนผมหงอกให้เข้ม ปกปิดผมขาวปรับบุคลิกให้ดูเด็กขึ้นได้อีกด้วย แต่ด้วยความที่สีย้อมผม เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีหลายชนิด จึงทำให้หลายคนเกิดความกังวลใจว่าการย้อมผมอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ซึ่งในบทความนี้ Dcash Professional จะมาไขความกระจ่างในเรื่องนี้ พร้อมวิธีลดความเสี่ยง และแนะนำผลิตภัณฑ์สีย้อมผมที่ปลอดภัยไว้ให้เป็นตัวเลือกในการใช้งาน  !

 

Cr.ภาพจาก Shutterstock.com

 

สารเคมีอันตรายจากสีย้อมผม

สีย้อมผมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับเปลี่ยนสีผม โดยมีสารเคมีหลายชนิดเป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะทำปฏิกิริยา แทรกซึมเข้าไปในเส้นผมเพื่อเปลี่ยนเม็ดสีเมลานินของเส้นผมตามธรรมชาติ ให้เกิดผลลัพธ์เป็นสีผมใหม่ ตามแต่ผู้ใช้งานต้องการ โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอันตรายประกอบอยู่ หลักๆ ที่อาจพบได้นั้นมีดังนี้

-แอมโมเนีย (Ammonia) เป็นสารเคมีที่ทำให้เส้นผมชั้นนอกเปิดขึ้นเพื่อให้สีย้อมผมแทรกซึมเข้าไปได้ โดยมีฤทธิ์เป็นด่าง หรือสามารถกัดกร่อน ทำให้ระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา รวมถึงระบบทางเดินหายใจ เบื้องต้นอาจทำเกิดแสบตา มีน้ำตาไหล ระคายเคืองจมูก ลำคอ และมีผื่นแพ้หรือผื่นคันขึ้นตามร่างกาย ส่วนใหญ่เป็นสารที่มักอยู่ในสีย้อมผมชนิดถาวร

-พาราฟีนีลีนไดอะมีน (PPD) เป็นสารเคมีที่พบได้ในสีย้อมผมชนิดถาวรและกึ่งถาวร ซึ่งถือเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดอาการแพ้รุนนแรงได้มาก นอกจากการเกิดผื่นคัน อาจทำให้มีอาการบวม หายใจลำบาก และถึงขั้นช็อกหมดสติได้

-สารซิลเวอร์ไนเตรต (Silver nitrate) เป็นสารเคมีที่ใช้ในงานหลากหลายประเภท สามารถช่วยปกปิดผมขาวได้ โดยทำปฏิกิริยากับอากาศเปลี่ยนเส้นผมขาวให้กลายเป็นสีดำได้ ซึ่งหากเกิดการระคายเคืองต่อดวงตา อาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้

-สารเลดอะซีเตด  (Lead acetate) คือสารตะกั่วชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในสารก่อมะเร็ง มีคุณสมบัติเสมือนสารซิลเวอร์ไนเตรตที่ใช้สำหรับสีย้อมผมปกปิดผมขาวชนิดไม่ต้องล้างออก มีโทษคือหากสะสมในร่างกายเป็นเวลานานๆ อาจทำลายประสาทสัมผัสและสมองได้

-พาราเบน (Paraben) เป็นสารกันเสียประเภทหนึ่ง มักพบได้บ่อยครั้งในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ ครีมบำรุง สีย้อมผม และยาต่างๆ โดยข้อเสียของพาราเบนคือเมื่อเข้าสู่ร่างกายและจะสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อได้ และทำปฏิกิริยารบกวนการทำงานของฮอร์โมน รวมถึงเป็นสารที่ก่ออาการแพ้

-เรโซซิโนล (Resorcinol) เป็นสารเคมีอีกประเภทที่มักพบได้ในสีย้อมผมชนิดถาวร ซึ่งเป็นพิษต่อเซลล์ผิวหนัง รวมถึงเยื่อดวงตา มีฤทธิ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ทำให้มีอาคารแสบคัน ผื่นขึ้น หรือน้ำตาไหล

 

 

อันตรายจากสีย้อมผมที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ

-อาการการระคายเคืองผิวหนังและดวงตา เกิดจากสารแอมโมเนีย พาราเบน และเรโซซิโนล ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารระคายเคืองที่ทำผิวหนังและดวงตา มีอาการคัน แดง บวม หรือแสบได้

-อาการแพ้สารพาราฟีนิลีนไดอะมีน (PPD) ผู้แพ้มักจะมีอาการใบหน้าบวม คันตามศีรษะ ใบหน้า ลำคอ หรือผิวหนังบริเวณที่โดนสีย้อมผม 

และหากมีอาการแพ้มากหรือมีอาการแพ้เฉียบพลัน อาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้หายใจไม่ออก หายใจติดขัด ซึ่งเมื่อสูดดมโดยตรงหรือสูดดมนานเกินไปจะทำให้เวียนศีรษะ ไอ และจามได้

-มีงานวิจัยพบว่า การใช้สีย้อมผมถาวรที่มีสารแอมโมเนียเป็นระยะเวลานานมีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ แต่ทั้งนี้การเกิดมะเร็งก็อยู่ที่ปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น พฤติกรรมในการใช้ชีวิต ยกตัวอย่าง การสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

-การใช้สีย้อมผมอาจทำให้อาการของภาวะสุขภาพแย่ลงได้ เช่น ผู้ป่วยโรคหอบหืด ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ผู้ป่วยโรคผิวหนังบางชนิด ซึ่งอาจจะทำให้อาการของโรคกำเริบได้

 

สีย้อมผมไม่มีแอมโมเนีย ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า

สีย้อมผมไม่มีแอมโมเนีย คือ สีย้อมผม ที่ใช้สารเคมีอื่นๆ ทดแทนแอมโมเนีย ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่างน้อยกว่า ทว่ามีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน ทำให้เกิดผลเสียต่อเส้นผมน้อยกว่า และปลอดภัยกว่า แต่ยังจำเป็นต้องทดสอบการแพ้ก่อนใช้งานทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย เพราะยังมีสารเคมีชนิดอื่นผสมอยู่ด้วย แต่อาจมีในปริมาณน้อยลง ขึ้นอยู่กับการผสมสูตรทางเคมีของแบรนด์ผู้ผลิตนั้นๆ

 

ข้อดีของสีย้อมผมปราศจากแอมโมเนีย

-ลดโอกาสการเกิดอันตรายต่อผิวหนัง และอาการแสบคัน 

-ลดโอกาสการเกิดอาการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ 

-กลิ่นไม่ฉุน ไม่แสบจมูก หายใจสะดวก

-ลดโอกาสการทำลายเส้นผมทั้งระหว่างการย้อมและหลังย้อม

-ไม่ดึงความชุ่มชื้นออกจากเส้นผม ลดผมแห้งเสีย ชี้ฟู และแตกปลาย

-ทำสีผมได้บ่อยยิ่งขึ้น ผมอ่อนแอน้อยลง ฟื้นบำรุงง่ายและรวดเร็วกว่าผมทำสีทั่วไป

-เหมาะสำหรับคนที่หนังศีรษะแพ้ง่ายกว่าคนปกติ เพราะลดการระคายเคืองต่อหนังศีรษะ

-สีผมสวยชัด ค่อนข้างติดทนนาน

-หากเลือกใช้สีย้อมผมที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติช่วยบำรุงผม จะทำให้ผมนุ่มสลวยเงางามได้มากยิ่งขึ้นหลังทำสี เช่น อาร์แกนออยล์ ว่านหางจระเข้ น้ำมันมะพร้าว และอื่นๆ

 

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสีย้อมผมไม่มีแอมโมเนีย

แม้สีย้อมผมที่ไม่มีแอมโมเนีย จะมีความปลอดภัยกว่า แต่ก็ยังมีจุดด้อยในเรื่องผลลัพธ์สีผมหลังย้อม นั่นคืออาจทำให้สีผมเข้มหรือสว่างได้ไม่เท่าสีย้อมผมที่มีแอมโมเนีย เพราะไม่มีปฏิกิริยาในการเปิดเกล็ดผมให้กว้าง ซึ่งตรงนี้เองที่ทำให้สีย้อมผมนั้นแทรกซึมเข้าไปได้จนถึงชั้นกลางของผม 

แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีการผลิตสีย้อมผมได้ถูกพัฒนาไปอีกขั้น มีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ และเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาปรับใช้อยู่เสมอ จึงสามารถผลิตสีย้อมผมไม่มีแอมโมเนีย ให้สามารถปรับสภาพเม็ดสีหลังย้อมได้เข้มและสว่างใกล้เคียงกันกับสีย้อมผมที่มีแอมโมเนีย เพียงแต่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเลือกใช้สีย้อมผมแบรนด์ที่เชื่อถือได้เท่านั้น

 

อันตรายจากสีย้อมผม

 

คำแนะนำเพิ่มเติมที่ลดความเสี่ยงจากอันตรายของสีย้อมผม

-เลือกใช้สีย้อมผมที่มีฉลากถูกต้องชัดเจน โดยระบุส่วนผสมที่ใช้อย่างละเอียด และในปัจจุบัน มีแบรนด์ที่ได้ผลิตสีย้อมผมสูตรอ่อนโยนซึ่งลดส่วนผสมของสารเคมีอันตรายอย่างสารกันเสียธรรมชาติ  และสารเคมีต่างๆ ที่ก่อให้เกิดการแพ้

-ควรทดสอบอาการแพ้ก่อนย้อมผมทุกครั้ง โดยทาสีย้อมผมที่ท้องแขน ข้อพับ หรือหลังหู ทิ้งไว้ประมาณ 24 – 48 ชั่วโมง หากมีอาการระคายเคือง เกิดอาการแพ้ เช่น อาการคันหรือผดผื่นแดง ให้หยุดใช้ทันที

-ควรสวมถุงมือ หน้ากากอนามัย และชุดกันสีเปื้อนขณะย้อมผม เพื่อปกป้องผิวหนังและเสื้อผ้าจากส่วนผสมของสารเคมีจากสีย้อมผม

-ควรย้อมผมในห้องที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อุดอู้ เพื่อลดการสูดดมสารเคมีเข้าปอด ซึ่งมีผลต่อระบบทางเดินหายใจ อาจก่อให้เกิดปัญหาทางด้านสุขภาพตามมาได้

-ควรเว้นระยะห่างในการทำสีผม ไม่ควรย้อมผมบ่อยเกินไป เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเส้นผม ทำให้ผมแห้งเสีย ชี้ฟู ขาดหลุดร่วงง่าย หากไม่ได้รับการบำรุงโดยผลิตภัณฑ์บำรุงผมสำหรับทำสีโดยเฉพาะ หรือได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี

-ควรสระผมด้วยน้ำเย็นหลังย้อมสีผมเพื่อไม่ให้ผมแห้งเสียยิ่งขึ้น เพราะหลังจากการทำเคมี เส้นผมจะสัมผัสและทำปฏิกิริยากับสารเคมีสีย้อมผมโดยตรงเป็นระยะเวลานาน จึงจะมีสภาพที่อ่อนล้ากว่าเส้นผมปกติทั่วไป และการที่ผมถูกความร้อนจะยิ่งทำให้ผมอ่อนแอลงได้ ฉะนั้นเพื่อเป็นการปกป้องเส้นผมจึงไม่ควรสระผมด้วยน้ำอุ่น แต่ให้สระด้วยน้ำเย็นจึงจะดีที่สุด

-ผู้ที่มีผมบางหรือผมน้อยไม่ควรย้อมสีผมเกิน 9 ครั้งต่อปี เพราะมีโอกาสที่สารเคมีจะเข้าไปสะสมในร่างกายได้ง่าย

-ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ที่มีร่างกายที่อ่อนแอ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนย้อมสีผมว่าจะส่งผลต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์หรือไม่ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และควรเลือกใช้สีย้อมผมที่ปราศจากสารพิษต่างๆ ที่ได้กล่าวมาข้างต้น เพื่อป้องกันอันตรายต่อทารกในครรภ์

-เด็กเล็กไม่ควรใช้สีย้อมผม เพราะเป็นอันตรายต่อร่างกายมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากผิวหนังของเด็กมีความบอบบาง จึงอาจเกิดอาการแพ้ได้ง่าย

-ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีประวัติเป็นโรคผิวหนัง มีอาการแพ้สารเคมี ควรปรึกษาแพทย์ก่อนย้อมสีผม เพื่อความปลอดภัย และไม่ให้อาการของโรคกำเริบ

-ควรอ่านฉลากข้างกล่องของสีย้อมผมก่อนใช้งาน และปฏิบัติตามคำแนะนำที่เขียนไว้อย่างเคร่งครัด

 

บทสรุป

แม้ว่าสีย้อมผมจะมีส่วนผสมของสารเคมีที่อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายบ้าง แต่สุดท้ายแล้วการย้อมสีผมจะเป็นอันตรายร้ายแรงหรือไม่นั้นอยู่ที่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สีย้อมผมที่มีประสิทธิภาพจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ และการทำตามคำแนะนำของฉลากข้างกล่องอย่างเคร่งครัด รวมถึงหากเป็นผู้ที่แพ้สารเคมีหรือมีประวัติแพ้สารเคมี ควรปรึกษาแพทย์ก่อนย้อมผมจึงจะเป็นการดีที่สุด

 

แนะนำผลิตภัณฑ์สีย้อมผม Dcash ตัวท็อป มั่นใจ “สวยได้ไม่ต้องเสี่ยง”

 

ดีแคช มาสเตอร์ ซูพรีม

ดีแคช มาสเตอร์ ซูพรีม สูตรใหม่ New Shade !

 

สีย้อมผมดีแคช มาสเตอร์ ซูพรีม สูตรใหม่ปราศจากแอมโมเนีย และลดปริมาณสารระคายเคืองต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน พร้อมผสมสารสกัดจากธรรมชาติช่วยบำรุงผม อาร์แกนออยล์และว่านหางจระเข้ สร้างสรรค์จาก Concept ที่ท้าทายผู้เชี่ยวชาญทีม Dcash Professional ให้ผลลัพธ์เป็นสีผมสวยเปล่งประกายเงางามดั่งเคลือบแก้ว สดชัด ตรงปก และติดทนนาน หากสนใจสามารถสั่งซื้อสินค้าในราคาโปรโมชั่นพิเศษได้ที่ Line ID : @dcashpro (มี@ด้านหน้า)

 

อ่านบทความเกี่ยวกับสีย้อมผมเพิ่มเติม

 

อ่านบทความเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บำรุงผมเพิ่มเติม

 

สนใจผลิตภัณฑ์ Dcash Professional สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากฝ่ายบริการลูกค้าได้ที่ช่องทางติดต่อดังนี้

Website : www.dcash.co.th

Facebook : Dcash Professional

Line ID : @dcashpro (มี@ด้านหน้า)

Instagram : dcash_professional

โทร. 02-726-2300 ต่อ 183 หรือ 511

แชร์