ผมพันกันเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดใจสำหรับสาวๆ ที่ love ทรงผมยาว อยากให้ผมเรียบลื่น ตรงสวย โบกสะบัดอวดโฉมได้แบบสบายๆ แต่ก็ติดปัญหาที่บางคนมีกิจวัตรบางอย่างที่ส่งผลให้ผมพันกันบ่อยๆ เช่น การใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมด้วยความร้อน รีดผม เป่าผม ม้วนผม สระผม เช็ดผมไม่ถูกวิธี การไม่หวีผม และอื่นๆ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมจัดทรงง่าย และในวันนี้ Dcash มีเคล็ดลับดีๆ มาแชร์ต่อ วิธีที่จะช่วยป้องกันและคลายล็อก แก้ปัญหาผมพันกัน ให้เรียบเนียนแบบง่ายๆ รวมถึงช่วยทำให้สุขภาพผมแข็งแรงขึ้นด้วย
อะไรคือสาเหตุของผมพันกัน
ผมพันกันเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ลักษณะของเส้นผม ความถี่ในการหวีผม ไปจนถึงสุขภาพเส้นผม ซึ่งเนื้อหาที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ คือปัจจัยที่อาจทำให้ผมพันกันง่ายขึ้น
1. เส้นผมขาดความชุ่มชื้น
ผมแห้งและขาดความชุ่มชื้นนั้นมีการเสียดสีกัน ส่วนชั้นนอกของเส้นผมเปรอะบาง ขาดร่วง ส่งผลให้ผมดูหยาบกระด้าง ไร้ชีวิตชีวา ทำให้ผมพันกันได้ง่าย และทำให้สภาพเส้นผมแย่ลง
2. ไม่หวีผม
สำหรับคนผมยาว การไม่หวีผมทำให้ผมพันกันได้ง่ายมาก และบางคนที่ชอบรวบผมหลวมๆ แค่ตรงปลายผม ไม่รวบที่โคนผม ก็อาจทำให้เกิดผมพันกันได้
3. ไม่เล็มปลายผมที่แห้งเสียเกินไป
ผมแตกปลาย ชี้ฟู และแห้งเสียมากเกินกว่าจะฟื้นบำรุงได้นั้นจำเป็นต้องรักษาด้วยการเล็มออก แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ ผมที่แตกปลายและชี้ฟูนั้นจะขาดร่วง รวมถึงอาจทำให้เส้นผมพันกันได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
4. นอนหงาย
สาวๆ ผมยาวที่ชอบนอนหงายแล้วเจอปัญหาผมพันกันเป็นเรื่องที่พบบ่อยมาก เพราะตามธรรมชาติเส้นผมมักจะเสียดสีกันตอนนอนหลับ ส่วนสิ่งที่ควรระวังอีกอย่างคือ นอนหลับไปทั้งๆ ที่ผมยังเปียกอยู่ เพราะผมที่เปียกมีความเปรอะบาง สามารถหยิกขึ้นและแตกหักง่าย ซึ่งผมพันกันที่เกิดขึ้นจากการนอนตอนผมเปียกหมาดๆ มักจัดการให้คลายยาก เพราะมีลักษณะแข็งกระด้าง
5. จัดแต่งทรงผมด้วยความร้อน
การจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนและการไดร์ผมทำให้เส้นผมเสียดสีจนทำให้เกิดปม ซึ่งเมื่อเส้นผมเสียหาย ผมชั้นนอกจะถูกเปิดออกจนถึงผมชั้นในที่ไม่มีอะไรปกป้อง
6. รัดผมแน่นจนเกินไป
ทรงผมที่รัดแน่น เช่น การถักเปีย รวบหางม้า หรือมวยผม อาจทำให้ผมพันกันมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อต้องดึงผมในตึงแน่นหรือมัดด้วยยาง กิ๊บ หรือปิ่นปักผม ซึ่งการดึงรั้งเส้นผมอย่างนี้บ่อยๆ อาจทำให้เส้นผมที่อยู่ติดกันเกิดการพันกัน ทำให้เส้นผมเสียหายได้
รวม Tips จัดการผมพันกัน แกะไม่ออก
กิจวัตรหรือการดูแลเส้นผมเป็นประจำ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ และใช้อย่างเหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะช่วยลดและเคลียร์ปัญหาผมพันกันได้ในระยะยาว ทำให้เส้นผมที่เรียบสวยดูดีมีชีวิตชีวาอีกด้วย และต่อไปนี้ คือเคล็ดลับสำคัญที่ Dcash อยากส่งต่อให้สาวๆ ทุกคน เพื่อสุขภาพผมที่ดี มีลุคสวยได้อย่างมั่นใจ เอ้า ลุย !
1. ปรับสภาพเส้นผม
หลังสระผมควรปิดท้ายด้วยการใช้ครีมนวดผม ชโลมทิ้งไว้ให้ทั่วสัก 2-3 นาทีค่อยล้างออก เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น จะมีประโยชน์ช่วยให้แปรงผมได้ง่ายขึ้น เพราะครีมนวดผมช่วยให้เส้นผมเรียบเนียนและปรับสภาพเส้นผมที่แห้งหยาบให้มีสัมผัสนุ่มนวล ทำให้เส้นผมพันกันน้อยลง และควรเน้นใช้ที่ปลายผม โดยใช้นิ้วมือสางผมอย่างระมัดระวัง
2. ใช้หวีซี่ห่าง
สามารถใช้หวีซี่ห่างคลายปมของผมพันกันได้โดยไม่เป็นการดึงเส้นผมมากเกินไปซึ่งอาจทำให้เส้นผมขาด แนะนำว่าหวีวันละ 2-3 ครั้ง เริ่มจากปลายผมก่อนจะไล่ขึ้นไปจนถึงโคน และควรหวีผมก่อนอาบน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ผมพันกันตอนสระผม รวมถึงไม่ควรหวีผมขณะผมเปียกเพราะจะทำให้ขาดง่าย
3. ล้างออกด้วยน้ำเย็น
ควรล้างผมด้วยน้ำเย็นเสมอ เพราะน้ำอุ่นจะเปิดเกล็ดผม ทำให้ผมพันกันและชี้ฟูยิ่งขึ้น แต่น้ำเย็นจะปิดเกล็ดผมไม่ทำให้เส้นผมหยาบและแห้งเสียหลุดร่วง
4. ซับผมด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
ผ้าเช็ดตัวไมโครไฟเบอร์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการซับผมหลังสระ เคล็ดลับคือค่อยๆ ซับผมเบาๆ จนหมาดก่อนเป่าผมให้แห้งด้วยลมเย็นจะช่วยลดผมพันกันได้ดี
5. ใช้น้ำมันมะพร้าวบำรุงผม
ควรนวดผมด้วยน้ำมันมะพร้าวเป็นประจำ เพื่อให้เส้นผมได้รับความชุ่มชื้นอย่างเหมาะสม เคล็ดลับนี้ใช้ได้ผลดีกับทุกสภาพเส้นผม และสามารถใช้ต่อเนื่องได้เป็นระยะเวลานาน จะยิ่งสร้างผลลัพธ์ช่วยให้ผมแข็งแรง สวยงามได้ นอกจากนี้ยังสามารถผสมน้ำมันมะพร้าวกับโจโจ้บาออยล์ และน้ำมันมะกอก เพื่อแก้ปมผมที่พันกันได้อีกด้วย
6. มาสก์ผมด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ
การใช้มาส์กผมด้วยวัตถุดิบธรรมชาติสัปดาห์ละครั้ง หรือทุกๆ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง (ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผม) จะสามารถเปลี่ยนแปลงและปรับสภาพผม คืนความชุ่มชื้นให้เส้นผมกับหนังศีรษะที่แห้ง พร้อมเพิ่มความแข็งแรงได้ในระยะยาว โดยผสมโยเกิร์ต น้ำผึ้ง และน้ำมันอัลมอนด์ ชโลมทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออก จะได้ผลลัพธ์เป็นผมสวย เห็นถึงความแตกต่างได้ในไม่กี่สัปดาห์ จะช่วยให้เส้นผมของคุณแข็งแรง นุ่มสลวย และพันกันน้อยลง
7. หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมด้วยความร้อน
สำหรับสาวๆ การหลีกเลี่ยงอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมด้วยความร้อน เช่น ไดร์เป่าผม เครื่องหนีบผม และที่ม้วนผมอาจทำได้ยาก หากจำเป็นต้องใช้จริงๆ ควรฉีดสเปรย์ป้องกันความร้อนก่อนเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพผมและป้องกันผมแห้ง ซึ่งเป็นสาเหตุของผมพันกันในอนาคต หรือตั้งค่าความร้อนให้ต่ำลงเพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับเส้นผมก็ได้
8. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผม
ผลิตภัณฑ์บำรุงผมประเภทต่างๆ เช่น สเปรย์ เซรั่ม และครีมนวดผมสามารถคลายปมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีคุณสมบัติพื้นฐานคือช่วยฟื้นบำรุงเส้นผมที่แห้งเสียให้นุ่มขึ้น และจัดการการพันกันของเส้นผม แต่หากเกิดปมขนาดใหญ่ที่คลายออกยาก ให้ลองทาผลิตภัณฑ์ลงบนผมและรอบๆ ปม จากนั้นค่อยๆ นวด และใช้นิ้วสาง อาจช่วยให้คลายได้โดยที่เส้นผมไม่ขาดร่วง
9. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์
ซัลเฟตแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมที่ส่งผมเสียต่อเส้นผม ทำให้ผมแห้งเสีย หยาบกระด้าง ดูไร้ชีวิตชีวา และทำให้เกิดการพันกัน รวมถึงขาดร่วง
เคล็ดลับน่ารู้เพิ่มเติม
-การถักเปียหรือรวบหางม้าช่วยป้องกันผมพันกันได้ในขณะเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายทุกประเภท
-ควรใช้นิ้วคลายปมก่อนหวีผมเสมอ เพื่อลดขนาดของปมที่พันกัน จะช่วยให้เมื่อหวีแล้วคลายปมได้ง่ายขึ้น
-เล็มผมทุกๆ 3 เดือนเพื่อกำจัดผมแตกปลายในกรณีที่แห้งเสีย ชี้ฟูมาก เพื่อ แก้ปัญหาผมพันกัน
-หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่ทิ้งสารตกค้าง รวมถึงหากใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรง ไม่ควรนอนหลับทั้งที่ยังไม่ได้สระผม
-ใช้ครีมนวดผมชนิดไม่ต้องล้างออกทันทีหลังสระผม จะช่วยจัดแต่งทรงผมได้ง่ายยิ่งขึ้น
-ชโลมน้ำมันธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก อาร์แกนออยล์ ลงบนเส้นผมก่อนสระผม 1 ชั่วโมง ช่วยลดโอกาสผมพันกัน
-การใช้สเปรย์ฉีดผมหรือเจลแต่งผมมากเกินไปอาจทำให้ผมเกิดปมแข็งได้
-หากผมพันกันขณะผมเปียก ให้ทาเซรั่มบริเวณที่พันกันแล้วใช้นิ้วสางปมให้คลายออก
สนใจผลิตภัณฑ์ Dcash Professional สามารสอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมจากฝ่ายบริการลูกค้าได้ที่ช่องทางติดต่อดังนี้
Website : www.dcash.co.th
Facebook : Dcash Professional
Line ID : @dcashpro (มี@ด้านหน้า)
Instagram : dcash_professional
โทร. 02-726-2300 ต่อ 183